กินชีสเเล้วอ้วน!!! ทันทีที่มีความคิดจะกินชีสทีไร ก็มักจะได้ยินคำเตือนในทำนองนี้มาเสมอว่าการกินชีสนั่นทำให้เราอ้วน ทำเอาสาวกชาวชีสเลิฟเวอร์ทั้งหลายต้องคอยหักห้ามใจตัวเองไม่ให้กินชีสตามที่ต้องการ โดยเฉพาะใครก็ตามที่กำลังอยู่ในช่วงไดเอท ชีสก็กลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของคุณไปโดยปริยายเลยล่ะค่ะเพราะเราเชื่อกันเสมอว่าชีสเต็มไปด้วยไขมันเเคลอรี่สูงปรี๊ด ไหนจะโซเดียมหรือโน่นนี่นั่นอีกมากมายก่ายกอง เเต่เชื่อหรือไม่ค่ะว่าจริงๆเเล้วชีสชนิดต่างๆที่คุณอาจมองข้ามไปบ้างนั้นมีประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพของเราอยู่เหมือนกันนะคะ วันนี้เราจึงขอพาทุกคนเข้าสู่โลกของชีสกับประโยชน์ดีๆ ที่มีคุณค่าต่อร่างกาย ว่าเเล้วก็ตามไปดูพร้อมกันเลยจ้า

อันดับเเรกเราต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า ชีส กับ เนย ไม่เหมือนกัน!!
เชื่อว่าน่าจะมีหลายคนสับสนเเละเเยกไม่ออกว่าชีส กับเนยนั้นไม่เหมือนกัน นั่นก็เป็นเพราะว่าชีส (cheese)เป็นผลิตภัณฑ์นมที่ผ่านกระบวนการทำให้โปรตีนในน้ำนมจับตัวเป็นก้อน ซึ่งจะมีความหลากหลายทางรสชาติเเละรสสัมผัสจากหลายชนิด ส่วนเนย (butter) เกิดจากปฏิกิริยาการกวนครีมด้วยความเร็วสูงจนทำให้ไขมันรวมตัวเป็นมวลที่ข้นขึ้้น เเม้จะมีจุดเริ่มต้นมาจากนมเหมือนกัน เเต่เนยเป็นผลิตภัณฑ์ที่นำมาจากครีม หรือส่วนที่เต็มไปด้วยไขมันลอยขึ้นมาบนผิวนม ในขณะที่ชีสทำมาจากส่วนที่ตกตะกอนอยู่ชั้นล่าง ซึ่งจะอุดมไปด้วยประโยชน์จากโปรตีนเเละมีไขมันต่ำกว่านั่นเองค่ะ
1.ชีส : ป้องกันฟันผุ
เชื้อแบคทีเรียบางชนิดอย่างโพรไบโอติกที่อยู่ในชีสช่วยยับยั้งไม่ให้เกิดฟันผุได้ที่ฟินแลนด์มีการทดลองกับอาสาสมัคร 74 คน ในช่วงอายุ 18-35 ปี เเละพบว่าเมื่อรับประทานชีสปริมาณ 75 กรัมต่อวัน ปริมาณเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของฟันผุ และยีสต์ที่เป็นสาเหตุของปัญหาช่องปากลดลงอย่างมากจนทำให้ความเสี่ยงปัญหาสุขภาพช่องปากลดลง การเคี้ยวชีสก้อนเล็กๆ ยังถือเป็นการเคลือบฟัน เพื่อป้องกันฟันผุและเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับฟันไปในตัว

2.ชีส : เสริมสร้างกล้ามเนื้อ
ชีสก็คือเวย์โปรตีนดีๆ นี่เอง สามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและเคซีนในร่างกาย แถมยังเหมาะสำหรับการกินก่อนนอนด้วย เพราะกรดอะมิโนที่อยู่ในชีสจะถูกดูดซึมเข้าไปเสริมสร้างกล้ามเนื้อ ในระหว่างที่ร่างกายของเรากำลังนอนหลับพักผ่อน
3.ชีส : ดีต่อกระดูก
ชีสมีธาตุแคลเซียมอย่างเหลือเฟือที่จะช่วยเสริมสร้างกระดูก เชดด้าชีสเพียง 100 กรัมก็มีปริมาณแคลเซียมถึง 710 มิลลิกรัม ในขณะที่นมสด 1 แก้ว (244 กรัม) มีแคลเซียมเพียง 305 มิลลิกรัมเท่านั้น นอกจากนี้ชีสยังอุดมไปด้วยโปรตีนและวิตามินดี ที่ส่งผลดีต่อมวลกระดูก ลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนได้เป็นอย่างดี

4.ชีส : ควบคุมน้ำหนักและลดความอ้วน
แทบจะเรียกว่าปฏิวัติความเชื่อกันเลยทีเดียว! ซึ่งก็เป็นเพราะชีสอุดมด้วยโปรตีนและแคลเซียมที่ช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ แต่การจะเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้นั้นจะต้องอาศัยการเบิร์นพลังงานออกจากร่างกาย ดังนั้นในระหว่างวันคนที่ออกกำลังกายเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกินชีสประจำในตอนเช้า แม้จะนั่งอยู่เฉยๆ ก็จะสามารถเบิร์นพลังงานส่วนเกินออกจากร่างกายได้มากกว่าคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายและกินชีส อีกทั้งไขมันในชีสยังทำให้อยู่ท้องนานขึ้น และไม่รู้สึกหิวบ่อยนั่นเอง

5.ชีส : ดีต่อระบบย่อยอาหารและการไหลเวียนเลือด
ระบบการย่อยของเราต้องการแบคทีเรียชนิดดีที่อยู่ในช่องท้อง ซึ่งชีสมีคุณสมบัติเป็นมิตรกับแบคทีเรียเหล่านี้ เนื่องจากชีสอุดมไปด้วยแร่ธาตุและวิตามินหลากหลายชนิด จึงช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตแบคทีเรียที่ดีกับระบบย่อยอาหารได้มากขึ้น เมื่อระบบย่อยอาหารไร้ปัญหา ระบบเผาผลาญก็จะทำงานดี การไหลเวียนเลือดก็คล่องตัวตามไปด้วย
6.ชีส : ลดระดับคอเลสเตอรอลบำรุงหัวใจ
กรดไขมันบิวไทเรตในชีสมีบทบาทในการยับยั้งการสะสมไขมัน จึงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี (LDL-Cholesterol) ได้และถ้าจะให้ดีกับสุขภาพหัวใจมากขึ้น แนะนำให้รับประทานบลูชีสกับไวน์แดงเพราะนอกจากจะได้ประโยชน์จากชีสแล้ว ก็จะได้ประโยชน์จากสารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจไปด้วยเลย

7.ชีส : ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน
ชีสมีกรดไขมันทรานส์ปลามิโทเลอิก (Trans-palmitoleic Acid) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่พบได้ในผลิตภัณฑ์นม โดยกรดไขมันชนิดนี้สามารถลดความเสี่ยงโรคเบาหวานได้กว่า 60% ชีสยังช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล ระดับอินซูลินลดความเสี่ยงการอักเสบต่างๆ และเพิ่มความไวต่ออินซูลินได้
8.ชีส : ปลุกพลังงานในร่างกาย
ไขมันอิ่มตัวที่มีอยู่ในชีสได้รับการยืนยันจาก Harvard School of Public Health ว่ามีส่วนช่วยปลุกความตื่นตัวและให้พลังงานกับร่างกายได้เป็นอย่างดี
เเละทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของประโยชน์ดีๆจากชีสที่คุณอาจคาดไม่ถึง เเต่ถึงอย่างไรเเล้วคุณก็ต้องไม่ลืมว่าเเม้จะมีประโยชน์มากขนาดไหน มันคงจะทำร้ายสุขภาพเสียมากกว่าหากคุณรับประทานมากเกินไป เพราะตัวชีสเองก็ยังได้ชื่อว่ามีไขมันสูงอยู่ดี ควรเลือกรับประทานเเต่เพียงหอมปากหอมคอ เเละเลือกรับประทานชีสที่ให้ปริมาณเกลือน้อย ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นชีสชนิดนิ่มพยายามหลีกเลี่ยงชีสชนิดเเข็งเช่น ชีสพาเมซาน ชีสที่มีโปรตีนดีต่อสุขภาพมากที่สุดควรเป็นชีสที่ทำขึ้นสดใหม่เช่น คอตเทจชีส เเละรับประทานชีสคู่กับโปรตีนอย่างเนื้อไก่หรืออาหารที่ให้ไฟเบอร์สูงไปในตัวด้วย เช่น แอปเปิ้ล บล็อกโคลี่ มะเขือเทศ เป็นต้นซึ่งจะให้ประโยชน์ต่อร่างกายมากกว่าการกินชีสเพียวๆนั่นเองค่ะ
ขอบคุณข้อมูล : krua.co/food_story