คุณ คนรอบข้างคุณ หรือคนที่คุณรู้จัก อาจกำลังตกเป็นเหยื่อของโรคปากนกกระจอกอยู่ก็เป็นได้!เชื่อว่าหลายคนคงจะพอรู้จักชื่อ "ปากนกกระจอก" กันบ้างเเล้วใช่ไหมค่ะ อาการสำคัญที่มีจุดเด่นชัดอยู่ที่บริเวณมุมปาก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ทุกเพศ ทุกวัยเเละเเม้จะไม่ได้เป็นโรครุนเเรงอะไรมากมาย เเต่เชื่อเถอะค่ะว่าลองถ้าใครได้เป็นเเล้วคงทรมานเเละรำคาญใจอยู่ไม่น้อย ดังนั้นร้อยทั้งร้อยก็คงไม่ขอได้พบพานกับมันดีกว่า เเต่หากใครที่กำลังเป็นอยู่หรือมีคนรอบข้างที่กำลังเป็นปากนกกะจอกอยู่เเล้วล่ะก็ลองสะกิดหรือคอยสังเกตกันดีกว่าค่ะเพื่อที่จะได้รับมือกับโรคปากนกกระจอกได้อย่างทันท่วงทีเเละถูกวิธีมากที่สุด รับรองว่าถ้าคุณรู้จักสังเกตเเละรู้เท่าทันรับรองว่ารักษาหายไม่ยากอย่างเเน่นอนค่ะ

มารู้จัก "โรคปากนกกระจอก" กันเถอะ!
อาการที่เรียกกันว่า ปากนกกระจอก หรือ Angular Cheilitis ถือว่าเป็นภาวะอักเสบบริเวณมุมปาก โดยจะเกิดอาการเจ็บปาก ปากเเห้งเเละเเตก เป็นแผล อาจมีรอยเเดงบวม เเละตึงที่มุมปากด้านใดด้านหนึ่งหรืออาจจะทั้งสองข้าง เเม้โรคนี้จะไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่มีความร้ายเเรง เเละสามารถหายได้เองภายใน 7 - 10 วัน เเต่ก็อาจจะนานกว่านั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปากนกกระจอก นั่นเองค่ะ
เเล้วปากนกกระจอกเกิดจากอะไร?
คุณผู้อ่านหลายคนที่กำลังสงสัยอยู่ว่า ไอ้อาการปากนกกระจอกที่เกิดขึ้น เกิดจากอะไรเราไปทำอะไรให้มันกันเเน่ ลองตามเราไปหาคำตอบเรื่องนี้พร้อมกันเลยค่ะ เพราะส่วนใหญ่เเล้วอาการปากนกกระจอกนั้นเกิดจาดการติดเชื้อราที่ผิวหนัง ซึ่งถือว่าเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด เชื้อราที่ทำให้เกิดโรคนี้ก็คือ เชื้อเเคนดิดา (Candida) ซึ่งเป็นเชื้อชนิดเดียวที่ทำให้เกิดโรคผื่นผ้าอ้อมในเด็กทารกนั่นเองค่ะ ส่วนปัจจัยอื่นๆที่ทำให้เกิดปากนกกระจอกก็ได้แก่
- น้ำลายจากการเลียปาก เนื่องจากมีน้ำลายหมักหมมอยู่บริเวณมุมปาก ทำให้ปากแห้งเเละเเตกเมื่อคุณเลียมุมปากที่เเห้งก็จะทำให้เชื้อราตรงแผลที่มีอยู่ก่อนเเล้วเจริญเเละเเบ่งเซลล์มากขึ้น จนนำไปสู่การติดเชื้อได้นั่นเองค่ะ

- มุมปากตก เนื่องจากรีมฝีปากบนคร่อมริมฝีปากล่างมากเกินไป ผิวหนังรอบปากห้อยลงมา
- เกิดการติดเชื้อที่ปาก นี่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปากนกกระจอกได้เหมือนกันค่ะ เพราะผู้ป่วยอาจติดเชื้อที่ปาก โดยที่เชื้อนั้นได้ลุกลามขึ้น
หรือปัญหาอื่นๆ อย่างเช่น การมีเชื้อราในช่องปาก การที่ต้องใส่ฟันปลอม ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคปากนกกระจอกได้เหมือนกัน!
อาการของโรคปากนกกระจอก
มาดูกันที่อาการของโรคปากนกกระจอกกันบ้างดีกว่าค่ะ สำหรับผุ้ป่วยที่เกิดอาการปากนกกระจอกมักเกิดอาการระคายเคือง เจ็บปากเเละปวดเเสบปวดร้อนตรงมุมปากซึ่งอาจเกิดอาการดังกล่าวที่มุมปากข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ซึ่งจะมีความเเตกต่างกันออกไปในเเต่ละบุคคลที่เป็นเเละอาการอื่นร่วมด้วยซึ่งสามารถสังเกตได้ดังนี้
- แผลเปื่อยเเตกเป็นร่องที่มุมปาก
- เกิดรอยเเดงเเละเลือดออก
- มีตุ่มพองเเละของเหลวด้านใน
- เกิดสะเก็ดแผล
- ปากบวม ลอก แห้ง แตก ตึง
ซึ่งอาการต่างๆ เหล่านี้ล้วนเเต่ส่งผลให้ความอยากอาหารลดลง เนื่องจากเราจะกินอาหารลำบากมากขึ้น เเละอาจจะส่งผลให้เกิดเชื้อราที่ผิวหนังหรือแผลที่ติดเชื้อเเบคทีเรีย เกิดการลุกลามไปรอบๆบริเวณที่เกิดโรคปากนกกระจอกได้นั่นเองค่ะ
วิธีป้องกันอาการปากนกกระจอก
ลงมาดูวิธีการป้องกันอาการปากนกกระจอกกันบ้างดีกว่าค่ะ
-กินอาหารที่มีวิตามินบี อาทิ เช่น ปลา ตับ ถั่ว นม ฯลฯ

-กินอาหารที่มีธาตุเหล็ก อาทิ เช่น เนื้อเเดง ใบกะเพรา หอย ไข่เเดง ธัญพืช

-เลิกนิสัยชอบเลียมุมปาก ไม่กัดหรือเลียริมฝีปากเมื่อเเห้งเเละเเตก
-งดผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการเเพ้เเละระคายเคืองที่ริมฝีปากอย่างลิปสติก ยาสีฟัน
-ทาปากด้วยลิบบาล์มเพื่อความชุ่มชื้นของผิว ลดอาการปากแห้งเเละระคายเคืองทางผิวหนัง
-ไม่ใส่ฟันปลอมขณะนอนหลับ ดูเเลความสะอาดอยู่เสมอ
-งดสูบบุหรี่

เมื่อหลายคนรู้จักเเละวิธีการรักษาโรคปากนกกระจอกกันเเล้ว หากคราวหน้าใครต้องเผชิญกับอาการปากนกกระจอกเเล้วล่ะก็ อย่าลืมนำวิธีป้องกันเหล่านี้ไปใช้ดูเเลปัญหาปากนกกระจอกของคุณนะคะ เท่านี้ก็สามารถรับมือกับปัญหานี้ได้เเล้วล่ะค่ะ
ติดตามเคล็ดลับเพื่อสุขภาพอื่นๆ...คลิก > https://www.facebook.com/youhealth.info
ติดตามช่อง youtube chanel...คลิก > https://www.youtube.com/c/youhealthyou-health